
3 ข้อควรระวัง ก่อนใช้ P/E หาหุ้น “ถูกหรือแพง”
การใช้อัตราส่วนทางการเงินอย่าง P/E ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเราคัดเลือกหุ้นพื้นฐานดี และบอกเบื้องต้นได้ว่า “หุ้นถูกหรือหุ้นแพง” แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่า ..
สูตรคำนวณอัตราส่วน P/E Ratio คืออะไร
สูตรคำนวณอัตราส่วน P/E Ratio มาจาก Price (ราคาหุ้น) / Earning per Share (กำไรสุทธิต่อหุ้น)
ซึ่งการเปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับกำไรสุทธิต่อหุ้น ดังนั้น ตัวเลข P/E ที่คำนวณออกมานั้นจึงแปลว่า หากเราเข้าลงทุนหุ้นตัวนั้น จะใช้เวลากี่ปีจึงจะคืนทุน หากบริษัทยังคงมีกำไรคงที่ไปเรื่อยๆ
ตัวอย่าง หุ้น THEOPP ราคาปัจจุบันที่ 100 บาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 20 บาท
P/E = 100/20 = 5 เท่า
“หุ้นถูก” หรือ “หุ้นแพง“ ดูได้ด้วย P/E
เราสามารถใช้ P/E เป็นตัวช่วยวิเคราะห์มูลค่าหุ้นได้ ด้วยการเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม, ค่าเฉลี่ยตลาด หรือหุ้นตัวอื่นๆ ที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน
ซึ่งอย่างที่บอก คือ P/E ยิ่งต่ำ หุ้นก็จะถูกมองว่าถูก ถือไม่นานก็คืนทุนได้แล้ว
แต่ก็ใช่ว่าหุ้น P/E สูงๆ จะน่าสนใจน้อยกว่าหุ้น P/E ต่ำเสมอไป เพราะการตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น เราควรศึกษาปัจจัยต่างๆ ให้รอบด้านด้วย
3 ข้อควรระวังก่อนใช้ P/E วิเคราะห์หุ้น
1. ไม่ควรเปรียบเทียบ P/E ข้ามอุตสาหกรรม
เพราะธรรมชาติของแต่ละอุตสาหกรรม ย่อมมีค่า P/E เฉลี่ยที่แตกต่างกัน
2. P/E ต่ำไม่ได้แปลว่าหุ้นถูกเสมอไป
บางทีหุ้นที่มี P/E สูงอาจเป็นเพราะ
– มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต หรือที่เรียกว่า Growth Stock
– เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องดี Market Cap. ขนาดใหญ่ มีปริมาณซื้อขายมากในแต่ละวัน
3. เราสามารถใช้ P/E วิเคราะห์เบื้องต้นได้ แต่ควรดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย
เช่น งบการเงิน การเติบโต ความเสี่ยง ผู้บริหาร ภาวะเศรษฐกิจ ฯลฯ
Opportunity for Investment : คัดสรรโอกาสการลงทุน เพื่อ “นักลงทุน”
คว้าโอกาสการลงทุน ที่นักลงทุนควรได้รับรู้ และทุกข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน การลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะเป็นเครื่องมือ ชี้วัดความสำเร็จ และการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต…
กดติดตามช่องทางการรับชม เพื่อได้รับข้อมูลที่น่าสนใจ…
FACEBOOK : https://web.facebook.com/finnomenaopportunity