สรุป OPPDAY GUNKUL YE/2023
1 min read

สรุป OPPDAY GUNKUL YE/2023

สรุป OPPDAY GUNKUL YE/2023

GUNKUL ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20% แตะ 9,500 ล้านบาท – พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 73 แตะ 20,000 ล้านบาท รับ โครงการ PPA ขนาด 832 MW หนุน ขณะที่แผนออกหุ้นกู้ยันพิจารณาหาต้นทุนที่เหมาะสม แจงงดจ่ายปันผล เหตุจ่อนำเงินใช้ลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียน

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL บอกใน Opportunity Day ในวันนี้ว่า ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 20% หรือ 9,500 ล้านบาท และคาดว่าในปี 73 จะมีรายได้แตะ 20,000 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA ที่ 9,000 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 จะเติบโตได้จาก ธุรกิจ Trading และ EPC เป็นหลัก

“โดยปกติไตรมาส 1/67 ลมจะค่อนข้างดรอป ดังนั้นการเติบโตของรายได้ในไตรมาสแรกนี้ น่าจะมาจากธุรกิจ Trading และ EPC เป็นหลัก ที่จะเติบโตได้ดี”นายสมบูรณ์ กล่าว

นายฐิติพงศ์ เตชะรัตนยืนยง Chief Financial Officer GUNKUL กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทประกอบด้วย 4 ธุรกิจประกอบด้วย 1.Trading and Manufacturing 2.ธุรกิจ Construction and Turnkey 3.ธุรกิจ Power Product และ 4.Gunkul Spectrum

สำหรับในระยะต่อไป สำหรับ ธุรกิจ Trading ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ที่ 2,200 ล้านบาท และปีหน้า 2,600 และปี 69 แตะที่ 3,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่ม EPC Turnkey ตั้งเป้าปีนี้ที่ 4,000 ล้านบาท ปีหน้า 4,400 ล้านบาท และปี 69 ที่ 4,700 ล้านบาท จะผลักดันการเติบโตจากงบลงทุนภาครัฐ โดยหวังมี Backlog ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยกว่า 50% เป็นของภาครัฐ และส่วนที่เหลือของเอกชน

ขณะเดียวกันยังมีโครงการที่จะผลักดันการเติบโตโดย ปีนี้จะมี 4-5 งานที่เปิดประมูล เช่น โครงการ CSCS วงเงิน 740 ล้านบาท คาดภายในไตรมาส 2/67 จะสามารถประมูลได้ ส่วนเกาะสมุย โครงการสร้างสายส่งเคเบิลใต้ทะเล วงเงิน 7,000 ล้านบาท คาดจะเปิดประมูลได้ไตรมาส 2/67 เช่นกัน ส่วน Microgrid เกาะสีชัง คาดจะเปิดประมูลได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นต้น

ด้านธุรกิจพลังงาน (Power Business) คาดภายใน 69 คาดว่าจะมีกำลังการผลิตรวม 2,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ 1,448 ล้านบาท ซึ่งจะสนับสนุนรายได้ และ EBITDA ซึ่งจะมาจาก Domestic MW , Oversea MW , Innovation & Platform business และ Technology Advancement and Diversification

ด้านโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หรือ PPA 832 เมกะวัตต์ รวม 17 โครงการ ประกอบด้วย โซลาร์ 15 โครงการ และลม 2 โครงการ ซึ่งจะ SCOD ในปี 69 รวม 177 เมกะวัตต์ ปี 71 รวม 48 เมกะวัตต์ ปี 72 รวม 371 เมกะวัตต์ และปี 73 ที่ 236 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 832 เมกะวัตต์ จะเป็น 100% Clean Energy ขับเคลื่อนรายได้ หรือ EBITDA Growth ให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง 5-7 ปี และยังไม่รวมเฟส 2 ที่จะประมูลเพิ่ม

“ทั้งหมด 832 เมกะวัตต์ ลงนามแล้วเสร็จสิ้น 621.4 เมกะวัตต์ เป็นตัวการันตีที่เราลงนามไปแล้ว โดยภาพรวมรายได้จากนี้ไป คาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยต่อปี 13% เป็นอย่างต่ำ คาดการณ์ปีนี้รายได้ไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท และ EBITDA ไม่ต่ำกว่า 3,400 ล้านบาท ขณะที่ปี 73 รายได้รวมจะอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท และ EBITDA ไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท หรือเติบโต 3 เท่าจากปัจจุบัน”นายฐิติพงศ์ กล่าว

สำหรับการงดการจ่ายปันผล สำหรับงบปี 66 ขอชี้แจงว่า ในช่วงปลายปีมีการจ่ายระหว่างกาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนกำไรที่เหลือ บริษัทต้องการเก็บไว้ลงทุนสำหรับโครงการ PPA ใหม่ ที่มีมากกว่า 832 เมกะวัตต์

ส่วนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 1,800 ล้านบาท ในเดือน ก.ค. นี้ หากดอกเบี้ยขยับตัวลงจะส่งผลดีในการรีไฟแนนซ์ในหุ้นกู้ดังกล่าว โดยคาดว่า 800 ล้านบาทที่ออกไปในเดือน ก.พ. นี้ มีคนจองค่อนข้างมาก ยังเชื่อมั่นใจการเติบโตของธุรกิจ ส่วนจะออกหุ้นกู้ที่จะทดแทนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือน ก.ค. นี้หรือไม่นั้น ยืนยันว่ามีหลายทางเลือกที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะพิจารณาต้นทุนที่เหมาะสม

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

#SET #mai #Stock  #IPO  #หุ้น #หุ้นกู้ #ตราสารหนี้ #theopportunity #กองทุนรวม #SSF #RMF  #ESG #ทองคำ #พันธบัตร #ข่าวหุ้น #Bitcoin #bullymarket #การเงินลงทุน #เศรษฐกิจ #การเมือง #ต่างประเทศ #ความรู้ #ข่าว  #set100 #set50 #ลงทุนนอก #OPPDAY

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *