
เปิดประวัติ บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป Novo Nordisk ผู้ผลิตยาเบาหวานครึ่งโลก
บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อยู่ประเทศไหน?
หลายคนที่เจอคำถามนี้อาจจะนึกถึง เยอรมนี ที่เป็นเศรษฐกิจพี่ใหญ่ของยุโรป หรือ ฝรั่งเศส ที่มีบริษัทแบรนด์หรูอันดับ 1 อย่าง LVMH … ส่วนบางคนน่าจะนึกไปถึง อังกฤษ ที่เป็นอีกหนึ่งมหาอำนาจด้านการเงิน
แต่คำตอบที่ว่ามาก็ยังไม่ถูก บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปแท้จริงแล้วแฝงกายเร้นลับอยู่ในประเทศเล็ก ๆ เหนือขึ้นไปจากเยอรมนี ทอดตัวอยู่ระหว่างผืนน้ำที่สำคัญสองแห่งคือทะเลเหนือและทะเลบอลติก นี่คือประเทศที่เล็กที่สุดในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ประเทศเขตอบอุ่นตอนเหนือที่มีประชากรเบาบางเพียง 1 ใน 10 ของไทย
เดนมาร์ก คือบ้านหลังเล็ก ๆ ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่าง Novo Nordisk บริษัทยาผู้ครอบครองตลาดยารักษาเบาหวานได้เกือบครึ่งโลก เจ้าของผลิตภัณฑ์ปากกาฉีดรักษาเบาหวาน Ozempic® โดยปัจจุบัน Novo Nordisk มีมูลค่าบริษัทไล่เลี่ยกับ Visa, TSMC และ J.P. Morgan
Market Capitalization ของหุ้นยุโรปในดัชนี STOXX 600 | Source: Tradingview as of 23/4/2024
Novo Nordisk จากการปลุกปั้นของศาสตราจารย์รางวัลโนเบล
จุดเริ่มต้นของ Novo Nordisk เริ่มขึ้น 2 ปีหลังจากที่ August Krogh (เอากุสต์ โครก์ห) ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ในปี 1920 จากการค้นพบกลไกควบคุมการสั่งการของหลอดเลือดฝอย เขาได้รับเชิญให้เดินทางข้ามทะเลแอตแลนติกเพื่อไปบรรยายให้กับมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ
แต่จุดที่ทำให้เรื่องราวของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาลคือในทริปนั้นเขาได้แวะขึ้นเหนือไปยังมหาวิทยาโทรอนโต ประเทศแคนาดา ณ ที่แห่งนั้น เขาได้พบนักวิจัย 2 ท่านที่คิดค้นการผลิต Active Insulin ซึ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (พวกเขาได้รับรางวัล Nobel หลังจากนั้น) และยังได้เข้าพบคณะกรรมการอินซูลินของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นผู้ถือสิทธิบัตร ข่าวดีคือ Krogh ได้รับอนุญาตให้กลับไปผลิตอินซูลินในประเทศนอร์ดิก
อีก 1 ปีให้หลัง August Krogh ได้ก่อตั้ง Nordisk Insulinlaboratorium ทว่าต่อมาเกิดความขัดแย้งภายในขึ้นจนทำให้ 2 พนักงานคนสำคัญต้องระเห็จออกไปและก่อตั้งบริษัทซึ่งต่อมามีชื่อว่า Novo Terapeutisk Laboratorium และทั้ง 2 บริษัทนี้ก็ได้ขับเคี่ยวกันต่อไปในอีกหลายทศวรรษต่อจากนั้น
มหกรรมการแข่งขันระหว่างสองบริษัทดำเนินไปต่อเนื่องจนถึงปลายทศวรรษที่ 1980 จนถึงจุดที่ทั้งคู่ตระหนักว่าทั้งคู่ “เป็นบริษัทใหญ่ของเดนมาร์ก แต่เป็นบริษัทเล็กบนเวทีโลก” อ้างอิงจากแถลงการณ์ร่วมในภายหลัง
เดิมที สองบริษัทต่างดำเนินการภายใต้ตลาดเดียวกัน ใช้ทีมวิจัยและบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ทับซ้อนกัน แถมยังอยู่ห่างกันไม่กี่กิโลเมตร จึงตัดสินใจยุติการแข่งขันอันยาวนาน และควบรวมกันเป็น Novo Nordisk ที่เรารู้จักกัน และขยายไลน์สินค้าออกไปอย่างหลากหลาย
ต่อจากนั้น บริษัทได้ผลิตสินค้าออกมาหลากหลายมากขึ้นตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโรคเรื้อรังอย่างเบาหวานและโรคอ้วน ไปจนถึงโรคที่พบได้ยากเกี่ยวกับเลือด ต่อมไร้ท่อ และอื่น ๆ
Novo Nordisk ในปัจจุบัน
Novo Nordisk มีการจ้างพนักงานมากกว่า 47,000 คน ในสํานักงานกว่า 80 แห่งทั่วโลก และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใน 168 ประเทศ โดยแบ่งธุรกิจออกมาได้เป็น 5 ส่วน คือ
- ผลิตภัณฑ์รักษาเบาหวาน เช่น Ozempic®
74% ของรายได้ – 173,466 ล้านโครเนอ - ผลิตภัณฑ์รักษาโรคอ้วน เช่น Saxenda®
18% ของรายได้ – 41,632 ล้านโครเนอ - ผลิตภัณฑ์รักษาโรคที่พบได้ยากเกี่ยวกับเลือด
5% ของรายได้ – 11,776 ล้านโครเนอ - ผลิตภัณฑ์รักษาโรคที่พบได้ยากเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ
2% ของรายได้ – 3,836 ล้านโครเนอ - ผลิตภัณฑ์รักษาโรคที่พบได้ยากอื่น ๆ
1% ของรายได้ – 1,551 ล้านโครเนอ
สัดส่วนรายได้ของ Novo Nordisk ปี 2023 | Source: Novo Nordisk – Investor Presentation Full year 2023
ปีที่ผ่านมา Novo Nordisk มีรายได้สูงถึง 232,261 ล้านโครเนอ เติบโต 31% จุดที่เป็นไฮไลต์คือการเติบโตของกำไรที่สูงแม้ทุ่มงบทำ R&D เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อนหน้า
- กำไรขั้นต้น 196,496 ล้านโครเนอ (โต 32%)
- กำไรจากการดำเนินงาน 102,574 ล้านโครเนอ (โต 37%)
- กำไรสุทธิ 83,683 ล้านโครเนอ (โต 51%)
ธุรกิจที่เป็นแรงส่งสำคัญของ Novo Nordisk ในปีที่ผ่านมามี 2 ส่วนคือ
- ยารักษาเบาหวานชนิด GLP-1 ซึ่งเป็นรายได้หลักเติบโตขึ้น 50%
- ผลิตภัณฑ์รักษาโรคอ้วน เติบโต 154% จนกลายมาเป็นอีกช่องรายได้ที่มีนัยสำคัญ (จากเดิมคิดเป็นรายได้ไม่ถึง 10% แต่ตอนนี้เป็นรายได้เกือบ 20% ของบริษัทแล้ว)
ผลประกอบการของ Novo Nordisk ปี 2023 | Source: Novo Nordisk – Annual Report 2023
อ้างอิง
Opportunity for Investment : คัดสรรโอกาสการลงทุน เพื่อ “นักลงทุน”
คว้าโอกาสการลงทุน ที่นักลงทุนควรได้รับรู้ และทุกข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน การลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะเป็นเครื่องมือ ชี้วัดความสำเร็จ และการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต…
กดติดตามช่องทางการรับชม เพื่อได้รับข้อมูลที่น่าสนใจ…
FACEBOOK : https://web.facebook.com/finnomenaopportunity