
ตลาดหุ้นเอเชีย กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวก ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้นเป็นวันแรกรอบ 10 วันทำการ
ตลาดหุ้นเอเชีย กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวก ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้นเป็นวันแรกรอบ 10 วันทำการ
Krungthai XSpring News Update: +ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ กลับมาเคลื่อนไหวในแดน บวก ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ รับข่าว สหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล และโอกาส เฟดลด ดอกเบี้ย มีโอกาสสูงขึ้น
•+ตลาดหุ้นจีน เคลื่อนไหวแดนบวก โดย HSKI+0.7% SSEC +0.21% จากคาดว่า ทางการจีนอาจมีข่าวดีปรับลดดอกเบี้ยประเภท 1ปี Medium Term Lending Facility ในสัปดาห์นี้ หุ้นนำขึ้น JD Health Intl +2.8% CNOOC+3.2% ฯลฯ ตามลำดับ
•+ตลาดหุ้นเอเชียพัฒนาแล้ว เคลื่อนไหวในแดนบวก และปรับสูงขึ้น ต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเปิดตลาด นำโดย Taiex+2.47% นำขึ้น โดยกลุ่มเทค TSMC+4.35% Kospi+1.59% นำขึ้นโดยกลุ่มเทคฯ กลุ่มผู้ผลิตเรือ และกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ SK Hynix+1.8% Hanwha Ocean+6% Hanmi Semiconductor +5.4% ฯลฯ XAO+1.46%
นำขึ้นโดยกลุ่ม Financials, Real Estate, Consumer Discretionary , Tech ฯลฯ Alcoa Corp+2.9% Commonwealth Bank+1.5% ฯลฯ Nikkei+0.92% ปรับขึ้นในหลายกลุ่มอุตฯ อาทิ Consumer Durables, Utilities, Financials ฯลฯ อาทิ Honda +2.1%
•+ตลาดหุ้น ASEAN เคลื่อนไหวแดนบวก แต่เริ่มลดช่วงบวกลง เทียบกับตอนเปิดตลาด โดยตลาดหุ้นที่ปรับสูงขึ้น ได้แก่ JKSE +1.22% STI+0.93% SET+0.37% VNI+0.36% FBKLCI+0.3% PSE +0.23%
•+US Future: Nasdaq Future+0.52% DJ Future +0.26% ช่วย เพิ่มโมเมนตั้มบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้
+ตลาดหุ้นไทย ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นภูมิภาค และ ปรับขึ้นเป็นวันแรกรอบ 10 วันทำการ
ตลาดหุ้นไทย ดัชนีฯ เคลื่อนไหวใน กรอบ 1366.71-1376.64 จุด (+1.64 จุดถึง +11.57 จุด) ในทิศทาง Up & Down (สูงสุดใน 15 นาทีแรก ก่อนอ่อนตัวช่วงที่เหลือ ของ การซื้อขาย)
ปัจจัยบวกคือ การกลับมาปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้นภูมิภาค หลัง คลาย กังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย (US Bond Yield, US Dollar Index กลับมาย่อตัวลงจากระดับสูงสุดรอบ 7 เดือนและ 2 ปี ตาม ลำดับ หลังรายงานเงินเฟ้อ PCE/Core PCE Inflation เดือนพย. ลดลง และความเสี่ยงของ US Government Shutdown คลี่คลาย (สภาสหรัฐฯฯมีมติเห็นชอบร่างงบประมาณฯชั่วคราวออกไปอีก 3 เดือน ก่อนกำหนดเส้นตายวันเสาร์) ส่วนปัจจัยลบคือ การปรับลดลง ของหุ้น TOP และการรอสัญญาณยืนยันการซื้อรอบใหม่ (ดัชนีฯต้อง ทะลุเหนือ 1380 จุดขึ้นไป)
Market Breadth เป็น ลบ อิง จำนวนบจ.ที่ปรับสูงขึ้น < จำนวน บจ.ที่ปรับลดลง ที่ 209 ต่อ 243 บจ. โดย Gainers ได้แก่ หุ้นบลูชิพ ขนาดใหญ่ที่ร่วงแรงที่ผ่านมา อาทิ AOT ADVANC CPALL มีผลต่อ ดัชนีฯ +3.9 จุด ส่วน Losers ได้แก่ TOP BTS มีผลต่อดัชนีฯ -0.68 จุด
Sectors & Stock Price Performance:
• +กลุ่มอุตฯที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ Transport+1.43% Commerce +1.17% ICT+1.12% Tourism+0.97%
•-กลุ่มอุตฯที่ปรับลดลง ได้แก่ Petro-1.3% Construction-0.7% Energy-0.52% Agri-0.43%
•+หุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้น >3% ได้แก่ TIDLOR AWC XO
•-หุ้นที่ปรับลดลง >3% ได้แก่ TOP BTS PROEN INET NUSA EE
ประเด็นต้องติดตาม วันนี้ :
•UK 3Q24E GDP Growth ครั้งสุดท้ายคาด +0.1%QoQ +1%YoY (Vs 2Q24 GDP +0.5%QoQ +0.7%YoY) และคาดว่าจะขยายตัว +0.2%QoQ +1%YoY ใน 4Q24E
•US CB Consumer Confidence เดือนธค. คาดอยู่ที่ 113 (Vs พย.111.7) สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ
Strategy Update: คาดดัชนีฯ เคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้าน 1374/1380จุด แนวรับ 1,366/1360 จุดแนะนำ Selective Buy กลุ่ม แบงก์ KBANK SCB TTB TISCO กลุ่มอิงการบริโภค CPALL CRC ADVICE HMPRO ฯลฯ
================
THE Opportunity Channel
Opportunity for Investment : คัดสรรโอกาสการลงทุน เพื่อ “นักลงทุน”
คว้าโอกาสการลงทุน ที่นักลงทุนควรได้รับรู้ และทุกข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน การลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะเป็นเครื่องมือ ชี้วัดความสำเร็จ และการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต…
กดติดตามช่องทางการรับชม เพื่อได้รับข้อมูลที่น่าสนใจ…
WEBSITE : https://www.theopp.co/
FACEBOOK : https://web.facebook.com/finnomenaopportunity
YOUTUBE : https://www.youtube.com/@TheOpportunityTH
X : https://twitter.com/opportunityth
#SET #mai #Stock #IPO #หุ้น #หุ้นกู้ #ตราสารหนี้ #theopportunity #กองทุนรวม #SSF #RMF #ESG #ทองคำ #พันธบัตร #ข่าวหุ้น #การเงิน-ลงทุน #เศรษฐกิจ #การเมือง #ต่างประเทศ #ความรู้ #ข่าว #set100 #set50 #ออมหุ้น #ออมทอง #เกษียญ #ลงทุนนอก