ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน ตลาดหุ้นไทย ได้แรงหนุนจาก DELTA

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (6 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอการประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยผลการนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน มีคะแนนนำคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,341.44 จุด เพิ่มขึ้น 866.54 จุด หรือ +2.25% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,459.26 จุด ร่วงลง 547.71 จุด หรือ -2.61% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,392.36 จุด เพิ่มขึ้น 5.37 จุด หรือ +0.16%

ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.2% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียบวก 1%

สื่อหลายสำนักของสหรัฐฯ รายงานผลการนับคะแนนเบื้องต้นในรัฐที่ปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว ปรากฏว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ไปแล้ว 230 คะแนน ขณะที่คามาลา แฮร์ริส แคนดิเดตจากพรรคเดโมแครต ตีตื้นมาอยู่ที่ 205 คะแนน

แฮร์ริสเริ่มมีคะแนนตีตื้นขึ้นมาในการนับคะแนนช่วงหลัง ๆ เนื่องจากรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตเริ่มนับคะแนนโหวตแล้ว เช่น รัฐวอชิงตัน (12 คะแนน) รัฐแคลิฟอร์เนีย (54 คะแนน) รัฐโคโลราโด (10 คะแนน) และรัฐออริกอน (8 คะแนน) แต่จะมากพอให้พลิกกลับมานำได้หรือไม่นั้นยังต้องลุ้นกันต่อไป

ผู้สมัครคนใดที่ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งถึง 270 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้

Krungthai XSpring +ตลาดหุ้นไทย วันพุธที่ 6 พย. ได้แรงหนุนจาก DELTA หนุนดัชนีฯ ท่าม กลางตลาดหุ้น ASEAN ส่วนใหญ่ชะลอตัว รับโอกาสสูงที่ TRUMP จะได้ เป็นปธน.สหรัฐฯ

ตลาดหุ้นไทย ดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1477.19-1486.30จุด (-4.48 จุด ถึง +4.63จุด) โดยอ่อนตัวในชั่วโมงแรก ก่อนรีบาวด์ฟื้นตัวในเวลาต่อมา

ปัจจัยกดดันดัชนีฯเป็นผลจาก Trump มีโอกาสได้รับเลือกตั้ง เป็นปธน.สหรัฐฯ คนใหม่ หลังจากมีคะแนนนำ Harris ในการนับคะแนนล่าสุด (214 ต่อ 179 คะแนน) รวมถึงคะแนนจาก 6 รัฐฯ Swing States ที่กำลังนับคะแนน พบว่า Trump นำทุกรัฐ โดยเฉพาะรัฐ Michigan, Wisconsin ที่โพล์เคยคาดว่า Harris ได้รับชัยชนะ รวมถึงรัฐ Pennslyvania ที่คาดว่าจะเป็นรัฐตัวแปร สำคัญต่อผู้ที่จะได้เป็นปธน.สหรัฐฯ

แม้ภาพรวมการลงทุนเป็น Slightly Negative อิง จำนวนบจ.ที่ปรับสูงขึ้น < จำนวนบจ.ที่ปรับลดลง ที่ 176 ต่อ 237 บจ. แต่ดัชนีฯอยู่ในแดนบวกได้ เป็นผลจากการปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ Gainers ได้แก่ DELTA(มีผลต่อ ดัชนีฯ +5.50 จุด) ส่วน Losers ถ่วงดัชนีฯ กระจายไปในหุ้นจำนวนมาก ได้แก PTTEP SCGP CRC CPAXT TIDLOR CPF SCC มีผลลบรวมต่อดัชนีฯ -2 จุด

Sectors & Stock Price Performance:

• +กลุ่มอุตฯที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ Electronic+3.98% Agri+1.07% Bank+0.82%

•-กลุ่มอุตฯที่ปรับลดลง ได้แก่ Finance-1.41% Petro-1.25% Pkg-1.16%

•+หุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้น >4% ได้แก่ DELTA HANA KCE BTC JTS IROYAL JPARK INSET STGT

•-หุ้นที่ปรับลดลง >3% ได้แก่ MPJ (หุ้น IPO เข้าซื้อขายวันแรก -14.2% เทียบราคาจอง 6 บาท) TIDLOR BAM KAMART THANI MEDEZE

ประเด็นต้องติดตาม วันนี้ :

•US ผลการเลือกปธน. สภาผู้แทน และวุฒิสภาสหรัฐฯ

•MSCI Rebalance ประกาศเช้าวันพรุ่งนี้ มีผลต่อตลาดวันที่ 26 พย.

•EU: HCOB รายงานภาคบริการ และ Composite PMI เดือน ต.ค. คาดอยู่ที่ 51.2/49.7 (Vs Previous 51.4/49.6)

Strategy Update: แนวโน้มตลาดหุ้นภาคบ่าย คาด Sideways Down แนวรับ 1,477/1470จุด (EMA10วัน) แนวต้าน 1,488/1,494จุด แนะนำ Selective Buy หุ้นรับผลบวกหากทรัมป์ได้รับชัยชนะ KBANK SCB PTTEP CCET BLA TLI

.

================

THE Opportunity Channel

Opportunity for Investment : คัดสรรโอกาสการลงทุน เพื่อ “นักลงทุน”

คว้าโอกาสการลงทุน ที่นักลงทุนควรได้รับรู้ และทุกข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน การลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะเป็นเครื่องมือ ชี้วัดความสำเร็จ และการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต…

กดติดตามช่องทางการรับชม เพื่อได้รับข้อมูลที่น่าสนใจ…

WEBSITE : https://www.theopp.co/

FACEBOOK : https://web.facebook.com/finnomenaopportunity

YOUTUBE : https://www.youtube.com/@TheOpportunityTH

X : https://twitter.com/opportunityth

#SET #mai #Stock  #IPO  #หุ้น #หุ้นกู้ #ตราสารหนี้ #theopportunity #กองทุนรวม #SSF #RMF  #ESG #ทองคำ #พันธบัตร #ข่าวหุ้น   #การเงิน-ลงทุน #เศรษฐกิจ #การเมือง #ต่างประเทศ #ความรู้ #ข่าว  #set100 #set50 #ออมหุ้น #ออมทอง #เกษียญ #ลงทุนนอก