
ลงทุนกองทุนผสม หรือแยกซื้อกองทุนเอง เลือกแบบไหนดี
#TheoppXGuru #Bottomliner
ลงทุนกองทุนผสม หรือแยกซื้อกองทุนเอง เลือกแบบไหนดี
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ “กองทุนรวมผสม” กันว่าคืออะไร
กองทุนผสม เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ โดยสัดส่วนการลงทุน ระดับความเสี่ยง และผลตอบแทน จะขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนนั้นเอง เช่น กองทุน A ลงทุนหุ้น 70% ตราสารหนี้ 30%, กองทุน B ลงทุนหุ้น 50% ตราสารหนี้ 50% เป็นต้น
.
ประเภทของกองทุนผสม แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ
- Aggressive มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ตั้งแต่ 0 – 100%
- Moderate ลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ย 25 – 80%
- Conservative ลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ย น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25%
.
ข้อดีของกองทุนผสม
– ลงทุนเพียง 1 กองทุน ก็ได้ลงทุนมากกว่า 1 สินทรัพย์
– ปรับพอร์ตอยู่เสมอ ตามภาวะตลาดในตอนนั้น และมุมมองของผู้จัดการกองทุน
– มี Rebalancing เพื่อรักษาสัดส่วนการลงทุนเป็นระยะๆ
.
ข้อเสียของกองทุนผสม
– ไม่สามารถกำหนดสัดส่วนการลงทุนได้ตามใจตัวเอง
– ไม่สามารถเลือกสินทรัพย์เองได้ ทำให้ขาดอิสระในการเลือกลงทุน
– ไม่รู้สัดส่วนการลงทุนที่ชัดเจน สามารถดูสัดส่วนลงทุนใน Factsheet ได้ แต่บางทีอาจจะยังไม่อัพเดตข้อมูลล่าสุด
.
พออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงน่าจะพอเข้าใจคอนเซปของกองทุนผสมกันคร่าวๆ และคงมีคำถามหนึ่งที่แวบเข้ามาว่า “ซื้อแค่กองทุนผสมกองทุนเดียว หรือซื้อแยกรายกองทุน แบบไหนดีกว่ากัน” ในมุมมองส่วนตัวเราคิดว่า แล้วแต่เราเลย เพราะแต่ละคนก็มีสไตล์การลงทุนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าชอบหรือถนัดลงทุนแบบไหนมากกว่า
.
สรุปสั้นๆ
กองทุนผสม >> เหมาะกับ คนที่ชอบความสะดวกสบาย ไม่อยากซื้อกองทุนหลายกอง ไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุนและปรับพอร์ตให้ทันสถานการณ์
แยกซื้อกองทุนเอง >> เหมาะกับ คนที่อยากกำหนดสัดส่วนและเลือกสินทรัพย์ลงทุนเอง สามารถปรับพอร์ตให้สมดุลเองได้