
SEI เปิดเทรดวันแรก 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.40 บาท บวก 141.94% จากราคา IPO 3.10 บาท
SEI เปิดเทรดวันแรก 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.40 บาท บวก 141.94% จากราคา IPO 3.10 บาท
บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) ดำเนินธุรกิจโดยเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องมือทางการแพทย์เป็นหลัก โดยบริษัทจัดหาสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์จากผู้ผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่ 18 ราย จาก 11 ประเทศ
โดยจำแนกสินค้าเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด กลุ่มสินค้าด้านความงาม กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด และกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แก่ โรงพยาบาลรัฐบาล สถาบันการศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก เป็นต้น งวดครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายการให้บริการและอื่นๆ ในสัดส่วน 90 : 10 ตามลำดับ
โดยเป็นรายได้จากการขายและบริการจากกลุ่มลูกค้าภาครัฐบาลร้อยละ 79 ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด และกลุ่มสินค้าหลักได้แก่ กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ ร้อยละ 52 กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิดร้อยละ 42 และกลุ่มสินค้าอื่นๆ ร้อยละ 6
ทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 85 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 120 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.10 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 155 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ล้านบาท
นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) เปิดเผยว่า สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่
ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการสั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใช้ในการขยายธุรกิจประเภทวัสดุสิ้นเปลือง ตลอดจนโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ ซึ่งอาจรวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง
ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ในอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ด้านสุขภาพของประชากร ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
SEI มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ นายธีระ ปุญญเจริญสิน ถือหุ้นร้อยละ 35.29 และนายกานต์ ปุญญเจริญสิน ถือหุ้นร้อยละ 31.76 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตาม
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิ 15.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/67 ที่มีกำไรสุทธิ 4.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 256%บริษัทฯ มีรายได้รวม 124.33 ล้านบาท จากไตรมาส 1/67 ที่มีรายได้ 76.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.83%
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 67 บริษัทฯ มีรายได้รวม 201.16 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.75% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มียอดขายสินค้าด้านการผ่าตัด สินค้าด้านความงาม และสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ลดลง เป็นผลมาจากการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งเป็นรายการที่เกิดเพียงครั้งเดียว (One – time)
การแข่งขันเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าด้านความงาม และการจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐประจำปีงบประมาณ 67 ล่าช้า และมีกำไรสุทธิที่ 19.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 33.03% เนื่องจากบริษัทฯขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น
================
THE Opportunity Channel
.
Opportunity for Investment : คัดสรรโอกาสการลงทุน เพื่อ “นักลงทุน”
.
คว้าโอกาสการลงทุน ที่นักลงทุนควรได้รับรู้ และทุกข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน การลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ ที่จะเป็นเครื่องมือ ชี้วัดความสำเร็จ และการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต…
กดติดตามช่องทางการรับชม เพื่อได้รับข้อมูลที่น่าสนใจ…
WEBSITE : https://www.theopp.co/
FACEBOOK : https://web.facebook.com/finnomenaopportunity
YOUTUBE : https://www.youtube.com/@TheOpportunityTH
X : https://twitter.com/opportunityth
#SET #mai #Stock #IPO #หุ้น #หุ้นกู้ #ตราสารหนี้ #theopportunity #กองทุนรวม #SSF #RMF #ESG #ทองคำ #พันธบัตร #ข่าวหุ้น #การเงิน–ลงทุน #เศรษฐกิจ #การเมือง #ต่างประเทศ #ความรู้ #ข่าว #set100 #set50 #ออมหุ้น #ออมทอง #เกษียญ #ลงทุนนอก